นายจริงใจกับยัยกะล่อน - นายจริงใจกับยัยกะล่อน นิยาย นายจริงใจกับยัยกะล่อน : Dek-D.com - Writer

    นายจริงใจกับยัยกะล่อน

    ....คานะ หญิงสาวน่ารักๆ ตัวเล็กๆคนหนึ่งที่เกิดมาแบบผิดปกติจากคนทั่วไป เรียกได้ว่าเธอเป็นคนที่ไม่มีความคิด เพราะเธอป่วยเป็นโรคคิดอะไรไม่เป็นตั้งแต่เกิด และเขา..ยูจัง..ชายคนที่เธอรักจนหมดใจ *-*

    ผู้เข้าชมรวม

    222

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    222

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ต.ค. 49 / 18:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      *-* นายจริงใจกับยัยกะล่อน *-*

      ก็ดีนี่นา ทำไมหรอ ”

      “ -_- ”

      “…ไม่ชอบเหรองาย อย่าทำหน้าแบบนั้นเซ่!…”

      ~_~ ”

      บอกว่าอย่าทำไงล่ะ โว้ย! ”

      “ ก็ได้ๆ ฉันจะไม่ทำอีก ”

      “……..พอใจหรือยัง………”

      “ >_< /////// *-*

      ฉันพยักหน้าหงึกๆ แต่เขาอารมณ์เสียใหญ่เลย ก็แหงล่ะฉันเป็นผู้เสียหายนี่นา เขาไม่เสียหายนี่

      ฉันรู้ว่าคนเป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีบ้าง แต่นี่มันมากไป คือเขาขอฉันมากเกินไปหน่อย เรายังไม่ถึงขั้นแต่งงานกันนี่นา ยังไงๆก็ไม่ได้ ไว้ค่อยให้ผ่านไปนานกว่านี้หน่อยได้ไหม ฉันรู้สึกว่ามันเร็วเกินไปน่ะ

      ว่าไป ทำไมฉันเพิ่งมารู้สึกเนี่ย! (ฉันโมโหตัวเอง) เกือบไปแล้วมั้ยล่ะเรา ยังดีนะที่ฉันยังพอมีความคิดกะเขาบ้าง โอ้! ฉันมีความคิดด้วยเหรอเนี่ย เป็นครั้งแรกที่ฉันคิดอะไรได้อย่างนี้ เพราะมิซากิกับนิโนะเพื่อนของฉันมักจะบอกกับฉันว่าฉันไม่เคยคิดอะไรได้เองเลย ฉันยังคิดอยู่ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนหรือเป็นแม่ของฉันกันแน่เนี่ย บ่นกันได้อยู่ทุกวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเซเว่นปิด แต่เอาเถอะ ยังไงๆพวกเขาก็คอยช่วยเหลือฉันมาตลอด

      ….ตลอด 15 ปีที่โตมาด้วยกันเลย เล่าไปก็จะหาว่าวิจารณืตัวเอง แต่ก็จริงนะที่ฉันไม่เคยคิดอะไรได้เอง

      เพราะอะไรน่ะหรอ

      ฉันก็เคยถามตัวเองอยู่บ่อยๆเหมือนกัน ฉันมักจะถูกเพื่อนๆคนอื่นล้ออยู่เสมอว่าเป็นเด็กที่ไม่มีความคิด เป็นไอ้งั่ง และเมื่อเวลามีงานกลุ่ม ฉันก็มักจะไม่มีกลุ่ม เพราะไม่มีใครเอาเข้ากลุ่ม แต่ละปีที่ผ่านมาฉันจึงได้เกรดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สาเหตุเพราะฉันเกิดมาผิดปกติจากคนทั่วไป ทำให้เวลาทำข้อสอบจึงกาหรือเขียนมั่วๆส่งไป

      เมื่อเป็นแบบนี้ แม่ของฉันจึงพาฉันไปพบอาหมอ และมักจะพาฉันไปบ่อยๆด้วย แต่แปลกนะฉันกลับไม่กลัวโรงพยาบาล ไม่กลัวเข็มฉีดยา และกลิ่นของโรงพยาบาล แต่ฉันกลับชอบมัน เพราะอาหมอและพี่พยาบาลใจดี เขาทำให้ฉันหายจากอาการคิดไม่เป็น

      จนถึงบัดนี้ฉันขึ้นปีหนึ่ง ของโรงเรียนโพอิมอูซอน อีก 2 ปี ฉันก็จะจบแล้ว ตั้งแต่ฉันเรียนมา โรงเรียนที่นี่ดีที่สุดสำหรับฉันเลย ไม่เหมือนที่โรงเรียนเก่า เพื่อนๆที่นี่รู้ว่าฉันมีอาการคิดไม่เป็น แต่พวกเขาไม่รังเกียจฉัน ตรงกันข้ามพวกเขากลับช่วยเหลือและเอาใจใส่ฉันดีมากจนเหมือนเป็นเพื่อนที่สนิทมากคนหนึ่งล่ะ

      อ้อ! มี 2 คนในนั้นที่ดีกับฉันยังกับนางฟ้าแน่ะ คนแรกชื่อมิซากิ ผมบ๊อบสั้นสีชมพูหวานแหววที่เข้ากับใบหน้าเรียวยาวของเธอ จมูกโด่งนารัก ตาสวยใสเป็นประกาย แถมตัวก็เล็กน่ารักอย่าบอกใครเหมือนฉันเดี๊ยะเลย *-* ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อว่านิโนะ เธอผอมสูงสวย หุ่นไม่เป็นรองใคร ตาคมเข้ม ปากแดงระเรื่อ นัยน์ตาดูเด็ดเดี่ยว มั่นคง ไม่ยอมใคร ผมยาวสยายถึงกลางหลังทำไฮไลท์สีฟ้าอ่อนแซมนิดๆพอเก๋ไก๋มีสไตล์ ใครๆมักจะมองเธอว่าไม่ใช่ผู้หญิงสักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าเธอจะมีรูปร่างเป็นผู้หญิง แต่บุคลิกท่าทางไม่เหมือนผู้หญิง นิโนะคล้ายกับพี่สาวของฉันมากเลยตรงที่มีความเด็ดเดี่ยวมั่นคง ไม่เคยกลัวใครหน้าไหน แต่เป็นคนที่มีน้ำใจและก็ใจดีเป็นที่สุดเลย

       

       

      เพื่อนๆที่นี่เขายังคิดว่าฉันเป็นคนคิดไม่เป็นอยู่แหละ รวมทั้งมิซากิและนิโนะด้วย 2 คนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าฉันหายแล้ว ช่วงที่ปิดเทอมก่อนมาเรียนม.ปลายที่นี่ แม่พาฉันไปหาอาหมอกับพี่พยาบาลสุดสวยเกือบทุกวัน ที่ว่าเกือบทุกวันเพราะว่าฉันไม่ได้ไปวันเสาร์กับวันอาทิตย์ ทุกสัปดาห์ฉันต้องไปโรงพยาบาลอาทิตย์ละ 5 วัน จนฉันกับแม่รู้จักทุกคนที่ทำงานอยู่ในนั้นรวมทั้งคนไข้ด้วยเกือบหมดก็ว่าได้ เพราะว่ากว่าจะเดินไปหาอาหมอจนเจอ ก็ต้องเดินหาทั่วโรงพยาบาลเพราะมีอาหมอคนเดียวเท่านั้นที่รักษาหายได้ทุกดรคและทุกคนรวมทั้งฉันด้วย กว่าจะเจอก็ต้องหอบแฮเกไปพักหนึ่งถึงจะเข้าไปตรวจอาการดังเช่นทุกวันได้

      ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าอาหมอเขากินอะไรนะถึงได้เก่งสุดยอดอย่างนี้ แถมคนไข้ก็มีแต่สาวสวยๆทั้งนั้น เพราะอาหมอเป็นคนหน้าตาดี ดีมากขนาดใส่แว่นยังดูดี ขนาดฉันเป็นเด็กฉันยังรู้สึกว่าชอบอาหมอเลย ถ้าวัยเดียวกันแล้วจะขนาดไหน จึงไม่แปลกที่ทุกวันฉันกับแม่จะต้องหอบแบบนี้ ก็อาหมอฮอตจริงๆ

      ตอนนี้ฉันหายแล้ว ช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้พบกับอาหมอ แต่ฉันได้ข่าวว่าเร็วๆนี้เขาจะแต่งงานแล้วนะ ก็นะ หล่อขนาดนี้ก็คงมีคนชอบเยอะ อยากรู้จังว่าแฟนของอาหมอเป็นใคร แล้วจะสวยเท่าฉันได้สักเศษเสี้ยวนึงไหม 555555++

      “ คานะ ”

      “ ……. ”

      “ คานะ! ”

      หวา ใครมาเรียกฉันเนี่ย เรียกเบาๆก็ได้ หูฉันจะแตกแล้วนะ

      “ หือ ” ฉันตอบ

      อ๋อ ยูจังเรียกฉันนี่เอง

      “ นี่! นายเรียกฉันเบาๆก็ได้ ไม่เห็นต้องตะโกนเลย เราอยู่ใกล้กันจะตาย หูฉันเกือบแตกแน่ะ ถ้าแตกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ หา! ”

      “ ก็ฉันเรียกเธอตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นตอบสักที คิดอะไรอยู่อ่ะ ”

      “ คิดเรื่องเมื่อกี๊ใช่ม๊า ”

      “ มะ…ไม่ใช่ซะหน่อย บ้า ” ตาบ้ายูจัง ฉันไม่ได้คิดเรื่องจูบเมื่อกี๊ซะหน่อย แต่จะว่าไปรสชาติมันก็หวานดีแฮะ รสชาติเหมือนชอกโกแลตรสที่ฉันชอบเลย ง่ะ*-* อยากกินอีกอ่ะ

      “ > /// <

      “ ถ้าไม่ใช่ ทำไมต้องหน้าแดงอย่างนั้นด้วยล่ะ ”

      “ ใครบอกกัน ฉันหน้าแดงเพราะร้อนต่างหากเล่า ทำไมวันนี้อากาศมันช่างร้อนนักนะ เมื่อเช้ายังเย็นๆอยู่เลย สงสัยคงเป็นเพราะอากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อย ช่วงนี้ยิ่ง Season Change อยู่ด้วย ”

      ฉันบ่นกะปอดกะแปด นี่หน้าฉันแดงได้ยังไงกันนะ

      “ ว่าแต่ นายเรียกฉันทำไมน่ะ ”

      “ ฉัน….คานะ เรื่องเมื่อกี๊ ”

      “ เรื่องเมื่อกี๊ ทำไมหรอ ”

      “ ฉันขอโทษนะคานะ ฉันคงจะชอบเธอ ไม่ใช่สิ ฉันคงรักเธอมากไปหน่อย ฉันถึงได้ขอเธอมากไป เธอไม่โกรธฉันนะ ”

      “ ขอโทษเหรอ ฉันโกรธนายมากเลย ”

      “ รู้มั้ย ถ้านายทำอะไรฉัน ฉันคงเสียใจไปตลอด ”

      อือ ขอโทษนะ ”

      หวาย เขาสำนึกผิดใหญ่เลยอ่ะ ฉันกะว่าจะแกล้งโกรธเขาหน่อยนะเนี่ย เขาจะได้ไม่ทำอีก แต่ไหงกลายเป็นเขารู้สึกผิดมากเลยขนากนั้นเนี่ย ฉันยังไม่เห็นเสียใจมากขนาดนั้นเลย นี่ฉันรักตัวเองบ้างหรือเปล่าเนี่ย

      “ นี่! นายจะก้มหน้าอย่างนั้นตลอดเลยหรอ ”

      “ ……… ”

      “ อย่าก้มหน้าอย่างนั้นสิ นายทำให้ฉันกลัวนะ ”

      เปล่าหรอก นายไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย ฉันกลัวตัวเองต่างหากล่ะ ทำท่าอย่างนั้น……น่ารักเกินไปแล้วนะ………..

      ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ นายอย่าทำตัวน่ารักอย่างนั้นสิ เดี๋ยวฉันก็กอดนายให้ซะหรอก

      “ ยูสุเกะ นายจะไม่เลิกก้มหน้าใช่มั้ย ”

      แน่ะ เขายังไม่เลิกก้มอีก ก็ได้ ว่าแล้วฉันก็เงยหน้าเขาขึ้น และปฏิบัติการขโมยริมฝีปากซะเลย แล้วฉันก็รีบวิ่งออกมา เขาทำท่าตกใจด้วยแหละ

      เฮ้ย! ได้ไงกัน คานะ ”

      “ คานะ……กลับมานี่นะ ”

      “ เธอฉวยโอกาสนี่นา……ไม่หยุดพรุ่งนี้ฉันจะเอาคืนนะ ”

      ยูจังของฉันน่ารักอย่างนี้แหละ เผลอได้ซะที่ไหน ขนาดตอนก้มหน้าเขายังดูหล่อบาดใจ ริมฝีปากก็สุดแสนจะเซ็กซี่ ฉันจึงอดใจไม่ไหว จูบมันซะเลย

      แล้วก็ถ้าฉันหยุด ฉันก็โดนดีน่ะสิ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวฉันเสียเปรียบอีก แล้วฉันก็เอาคืนเรื่องเมื่อกี๊ด้วย หวังว่าเขาคงไม่ตามฉันทันนะ ถ้าทันล่ะแย่แน่เลย ฉันวิ่งเข้าไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

      “ แฮ่ก…แฮ่ก! ไปไหนแล้วนะ ”

      “ เมื่อกี๊ยังเห็นวิ่งอยู่เลย ไปฝึกวิ่งมารึไงเนี่ย วิ่งเร็วชะมัด ”

      อ้อ! นั่นเป็นข้อดีของฉันอีกอย่างหนึ่ง ต้องขอบคุณอาหมอ ตอนฉันไปรักษาอาการ หมอบอกให้ฉันวิ่งวันละ 10 กิโล จับเวลาด้วย ฉันร่างกายแข็งแรงน่ะก็เลยทำได้ แล้วก็หายจากอาการคิดไม่เป็น

      อาหมอบอกฉันว่าฉันทำเวลาได้ดีมาก ฉันก็ยังงงอยู่ว่ารักษาอาการนี้มันเกี่ยวกับวิ่งวันละ 10 กิโลด้วยหรอ อาหมอบอกว่ามันเกี่ยวแต่ฉันก็จำไม่ได้ว่ามันเกี่ยวอย่างไง เพราะอาหมออธิบายซะยืดยาว ฉันวิ่งมาเสร็จ กำลังเหนื่อยๆเจอแอร์เย็นๆไม่นานก็หลับตาลงจนไม่รู้เรื่องราวที่อาหมอได้อธิบาย

      ตอนตื่นมาอาหมอบ่นใหญ่เลย เพราะฉันยังฝึกไม่เสร็จสมความตั้งใจของอาหมอ แต่ต้องมาหลับซะก่อน ตอนนั้นฉันขำท่าทางดุของอาหมอ เพราะท่าดุของอาหมอตลกมาก ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ฉันเลยโดนดุเข้าไปอีก

      อย่างที่บอกฉันวิ่งทำเวลาได้ดีมาก อาหมอเลยส่งฉันเข้าแข่งวิ่งจนฉันได้รับรางวัลที่ 1 กลับมาบ่อยๆสร้างความภาคภูมิใจให้อาหมอกับแม่มาก และมันก็ช่วยสร้างความภาคภูมิใจผสมกับโล่งใจให้กับฉันในตอนนี้ด้วย เพราะมันทำให้ยูสุเกะวิ่งตามฉันไม่ทัน

      วันนี้ฉันหนีเขาได้แล้วพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรน้า? ฉันคิด อย่างที่บอกถ้าเขาจับได้ฉันโดนเอาคืนแน่ คิดแล้วจั๊กจี้จัง

      อ้อ! คงสงสัยกันล่ะสิว่าพ่อฉันไปไหน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าพ่อตั้งแต่เด็ก พอฉันเกิดมาแม่ก็หย่ากับพ่อ ด้วยเหตุผลที่ว่า แม่ทนไม่ได้ เพราะพ่อเป็นคนหน้าตาดีจัด ขนาดพ่อแต่งงานแล้วยังจะมีคนมาขอแต่งงานด้วยและบอกว่าไม่สนว่าพ่อจะมีเมียและเมียตั้งท้องแล้ว บ้ามั้ยล่ะ! ผู้หญิงอย่างนั้นมีในโลกด้วยหรอเนี่ย แม่ของฉันเป็นคนที่รำคาญง่ายและพูดออกไปไวโดยไม่ยั้งคิด พ่อจึงทำตามที่แม่พูด อยากรู้มั้ยว่าแม่ฉันพูดว่าอย่างไง

      “ นี่คุณ ถ้าเป็นอย่างนี้ คุณก็ไปอยู่กับเขาซะสิ เด็กในท้องเนี่ย ฉันเลี้ยงเองได้ ”

      นั่นแหละที่แม่ฉันพูดออกไป พอแม่พูดจบพ่อก็เก็บของออกไปเลย คงจะงอนน่าดู เลยเก็บของออกไปเลย ตอนพูดแม่ฉันก็ไม่เสียใจ แต่พอพ่ออกไปแล้ว แม่ก็ร้องไห้ใหญ่เลย 7 วัน 7 คืนด้วยแหละ เพราะงั้นตอนคลอดฉันออกมา และเลี้ยงฉันไปได้สักระยะหนึ่ง แม่ก็ได้รู้ว่าฉันเป็นเด็กที่คิดอะไรเองไม่เป็นเลย

      ในตอนนั้น พอแม่เล่าจบฉันจึงคิดได้ว่า พระเจ้าคงลงโทษแม่ด้วยการให้ลูกของแม่เป็นคนที่คิดไม่เป็น ไม่รู้จักคิดก่อนพูด

      ถ้างั้นฉันเกิดมาเพราะบาปของแม่สินะ ว้าก! ฉันเกิดมาทำไมเนี่ย เกิดมาแล้วคิดอะไรเองไม่เป็น

      แหะ แหะ แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่โทษแม่แล้วแหละ เพราะฉันคิดเองเป็นแล้ว นานเหมือนกันนะกว่าฉันจะคิดเป็นเนี่ย 2 ปี …..2 ปีที่ฉันไปหาอาหมอ เพื่อบำบัดการคิดของฉัน จนถึงตอนนี้ฉันก็ทำมันสำเร็จ

      ยะฮู้! ฉันนี่โชคดีจริงๆเลย มีหลายคนก็เป็นเหมือนฉัน บางคนบำบัด 6 ปียังไม่หายเลย อ้อ! แล้วก็ต้องขอบคุณแม่ด้วยที่สร้างฉันให้มาเจอกับยูสุเกะคุง อื้ม พ่อด้วย  ขอบคุณค่ะ *-*

       

      ********* *-* จบแว้วคร้าบบบบ *-* **********

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×